
คำผญาสุภาษิตเตือนใจ
ฮู้จักผญา
คนอีสานมีคำคม สุภาษิตสำหรับสั่งสอนลูกหลานให้ประพฤติตนอยู่ในฮีตคอง (จารีต- ประเพณี) ไม่ออกนอกลู่นอกทาง คำคมเหล่านี้รู้จักกันทั่วไป ในชื่อ "ผญา" หมายถึง ปัญญา, ปรัชญา, ความฉลาด, คำภาษิตที่มีความหมายลึกซึ้ง (wisdom, philosophy, maxim, aphorism.)
ผะหยา หรือ ผญา เป็นคำภาษาอีสาน สันนิษฐานกันว่าน่าจะมาจากคำว่า ปรัชญา เพราะภาษาอีสานออกเสียงควบ "ปร" ไปเป็น ผ เช่น คำว่า เปรต เป็น เผต โปรด เป็น โผด หมากปราง เป็น หมากผาง ดังนั้นคำว่า ปรัชญา อาจมาเป็น ผัชญา แล้วเป็น ผญา อีกต่อหนึ่ง
ปัญญา ปรัชญา หรือผญา เป็นกลุ่มภาษาเดียวกัน มีความหมายคล้ายคลึงกัน ใกล้ เคียงกันหรือบางครั้งใช้แทนกันได้ ซึ่งหมายถึง ปัญญา ความรู้ ไหวพริบ สติปัญญา ความเฉลียว ฉลาดปราชญ์เปรื่อง หรือบางท่านบอกว่า ผญา มาจากปัญญา โดยเอา ป เป็น ผ เหมือนกับ เปรต เป็น เผด โปรด เป็น โผด เป็นต้น ผญาเป็นลักษณะแห่งความคิดที่แสดงออกมาทางคำพูด ซึ่งอาจ จะมีสัมผัสหรือไม่ก็ได้
ผญา คือ คำคม สุภาษิต หรือคำพูดที่เป็นปริศนา คือฟังแล้วต้องนำมาคิด มาวิเคราะห์ เพื่อค้นหาคำตอบที่เป็นจริงและชัดเจนว่า หมายถึงอะไร
ผญา เป็นคำพูดที่คล้องจองกัน ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องมีสัมผัสเสมอไป แต่เวลาพูดจะ ไพเราะสละสลวย และในการพูดนั้นจะขึ้นอยู่กับจังหวะหนักเบาด้วย ผญา เป็นการพูดที่ต้องใช้ไหวพริบ สติปัญญา มีเชาวน์ มีอารมณ์คมคาย พูดสั้นแต่กิน ใจความมาก
การพูดผญาเป็นการพูดที่กินใจ การพูดคุยด้วยคารมคมคาย ซึ่งเรียกว่า ผญา นั้น ทำให้ผู้ฟังได้ทั้งความรู้และความคิดสติปัญญา ความสนุกเพลิดเพลิน ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้เกิด ความรักด้วย จึงทำให้หนุ่มสาวฝนสมัยก่อน นิยมพูดผญากันมาก และการโต้ตอบเชิงปัญญาที่ทำ ให้แต่ละฝ่ายเฟ้นหาคำตอบ เพื่อเอาชนะกันนั้นจึงก่อให้เกิดความซาบซึ้ง ล้ำลึกสามารถผูกมัด จิตใจของหนุ่มสาวไม่น้อย ดังนั้น ผญา จึงเป็นเมืองมนต์ขลัง ที่ตรึงจิตใจหนุ่มสาวให้แนบแน่น ลึกซึ้งลงไป
ภาษิตโบราณอีสานแต่ละภาษิตมีความหมายลึกบ้าง ตื้นบ้าง หยาบก็มี ละเอียด ก็มี ถ้าท่านได้พบภาษิตที่หยาบ ๆ โปรดได้เข้าใจว่า คนโบราณชอบสอนแบบตาเห็น ภาษิตประจำ ชาติใด ก็เป็นคำไพเราะเหมาะสมแก่คนชาตินั้น คนในชาตินั้นนิยมชมชอบว่าเป็นของดี ส่วนคน ในชาติอื่น อาจเห็นว่าเป็นคำไม่ไพเราะเหมาะสมก็ได้ ความจริง "ภาษิต" คือรูปภาพของวัฒนธรรม แห่งชาติ นั่นเอง
การจ่ายผญา แก้ผญา เว้าผญา หรือ พูดผญา คือการตอบคำถาม ซึ่งมีผู้ถามมาแล้ว ก็ตอบไป เป็นการพูดธรรมดา ไม่มีการเอื้อนเสียง ไม่มีทำนอง แต่เป็นจังหวะ มีวรรคตอนเท่านั้น ผู้ถามส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายชาย เช่น
(ชาย) .... อ้ายนี้อยากถามข่าวน้ำ ถามข่าวถึงปลา อยากถามข่าวนา ถามข่าวถึงเข้า(ข้าว) อ้ายอยากถามข่าวน้อง ว่ามีผัวแล้วหรือบ่ หรือว่ามีแต่ชู้ ผัวสิซ้อนหากบ่มี
(หญิง) ..... น้องนี้ปอดอ้อยซ้อยเสมอดังตองตัด ผัดแต่เป็นหญิงมา บ่มีชายมาเกี้ยว ผัดแต่สอนลอนขึ้น บ่มีเครือสิเกี้ยวพุ่ม ผัดแต่เป็นพุ่มไม้เครือสิเกี้ยวกะบ่มี
พอสิเข้าใจเกี่ยวกับผญาแล้วนอ ถ้าอยากฮู้หลายกะไปหาศึกษาเพิ่มเติมเอาเองเด้อ
เพื่อว่าเป็นการเรียนรู้และฝึกการเว้าผญา เฮากะมาเว้า มาแลกเปลี่ยนความฮู้เกี่ยวกับผญากันเด้อพี่น้องเด้อ
๏ เป็นคนให้ธรรมเนียม คือนกเจ่า
บาดว่าบินเผ่นผ้าย ขาวแจ้งดั่งนกยาง
๏ เป็นคนให้ ลักขะนานามปลวก
หากซ่างยู่หากซ่างอ้น คูนขึ้นให้ใหญ่สูง
๏ ให้ค่อยเอาโสมเพี้ยง ทุงไซ ซ้องพะเนด
ลมบ่มาล่วงต้อง บ่มีเปื้องปิ่นหาง ดอกนา
๏ ยามเมื่อลีลาย้าย แปงโสมให้มันคล่อง
อย่าได้เป็นดั่งเซื้อ ซะนีเต้นค่างไป
๏ ซาดที่ภาษาเซื้อ แนวเสืออย่าได้แอบ
ให้เจ้าแอบเอาแต่เซื้อลูกซ้าง มาสร้องสืบเฮือน
๏ ความคิดให้เถิงถองพื้น เสมอบัวยมยั่ง
ใจให้อ่อนสิ่งฝ้าย หลายลี้ยืดยาว
๏ อย่าได้ทำตนเพี้ยง หัวเพียงเสมออึ่ง
มันหากเหลือแต่ฮ้อง ตายย้อนปากโต
๏ อย่าได้ขัว ๆ ฮ้อง เสมอกากินไข่
อย่าได้เป็นดั่งนกไส่ฮ้อง ลางเข้มข่มแขง
๏ เป็นญิงนี้ ให้ธรรมเนียม นามไก่
ไก่มันซ่างฟัก ซ่างป้อง ปองลูกให้ใหญ่สูง
๏ ซือว่าเป็นคนให้ ธรรมเนียมนามเต่า
มันหากเมี้ยนไข่ไว้ ดีแล้วจึงค่อยหนี
๏ ให้ซ่างบ้อน เสมอดั่งปลาหลด
อย่าได้แปนคูยลอย ดั้งปลากระทงใบ้
๏ ให้ค่อยทำเพียรสร้าง เสมอแตนแปงซ่อ
ให้สร้างก่อสืบไว้ เสมอเผิ้งสืบฮัง
๏ เจ้าผู้มีความฮู้ เต็มพุงเพียงปาก ก็ดีท้อน
สอนโตเองบ่ได้ ใผซิย้องว่าดี
๏ คนผู้มีความฮู้ ซูซีเฮ็ดบ่แม่น
ความฮู้ท่อแผ่นฟ้า เป็นบ้าท่อแผ่นดิน
๏ ไหมบ่มีครั่งย้อม คือป่านซาวกะเลีง
ดำบ่แดงพอกะเทีน ส่วนซิเสียเซีงผ้า
๏ คันเจ้ามีเข็มแล้ว ให้ถามไหมดูก่อน
ไหมบ่มีฮ้อยก้น สนได้ก็บ่งาม
๏ คำค่าล้น คดขอดเป็นแหวน
สีแดงสุก ก็เพราะมีหัวแก้ว
คือคนฮู้ วิซาดีหลายอย่าง
กิริยาซ่วยยู้ ซูขึ้นจึ่งค่อยเฮือง แท้แล้ว
๏ ซาดที่เป็นญิงนี้ ญิงไปให้มันแน่
ญิงก็ญิงแท้ ๆ แนแล้ว จึงค่อยยิง
๏ ซาดที่เป็นซายนี้ อย่าเป็นทรายแกมแฮ
ซายก็ซายแท้ ๆ ตมนั้นอย่าให้มี
๏ ซาดที่เป็นมณีแก้ว มหานิลลูกประเสริฐ จริงแล้ว
ถ้าบ่มีคำหุ้มห่อแก้ว มณีเจ้าก็บ่เฮือง
๏ อย่าให้เสียแฮงได้ เป็นคนนำเพิ่น
คนก็คนแท้ ๆ เหนียวตึ้ง จั่งแม่นคน
๏ กินแกงให้เจ้าซอมดูก้าง คาคอซิจิ้มยาก
ดูกมันไปอยู่ค้าง เกลือนน้ำซิบ่ลง
๏ ข้ามเหนือเพื่อตกใต้ ไหลลงมาค้อมพ่อแม่น
คือดั่งพร้าอีโต้ คมปู้ให้ฟันเจ้ยแต่ไกล
๏ มีไหมแล้ว อย่าลืมคุณม้อนคว่าง
ม้อนหากแปงเส้นยุ่ง ยองให้ก็จึ่งมี
๏ อย่าได้เห็นแก่ได้ หมากแตงโมหน่วยใหญ่
ลางเทื่อโชคบ่ให้ ซิเลยได้หน่ายปลาย
๏ ไม้บ่ทันแทกด้าม อย่าฟ้าวฮ่าวหวนตัด
เยียวบ่เถิงภายลุน ซิเคยมือเมื่อหน้า
๏ เห็นว่า ซอนลอนตั้ง กางพาอย่าฟ้าวอยาก หลายเนอ
ลางเทื่อเป็นต่อนง้วน กินแล่ว ซิบ่ยืน
๏ เป็นขุนนี้ วิซาให้มีมาก
อย่าได้เป็นดั่งหนังแห้งมาจวบพ้อ ไฟไหม้โงดโง
๏ กินให้พิจารณ์ไว้ คะเนดูสามส่วน ดีดาย
นอนให้คึดสี่ด้าน คะนิงถ้วนจึ่งนอน แท้เนอ
๏ ซาดที่แนวนามบ้ง แปนโตกาซิตอด กินแล้ว
เฮ้ดให้คือดั่งม้อน ใยหุ้มห่อโต นั้นท้อน
๏ เป็นว่าได้หน่วยแก้ว อย่าปะเอิบใจหลาย
ลางเทื่อฮงๆใส หน่วยขวงบ่มีฮู้
๏ กุนชะโรซ้าง แนวสูงสัตว์ใหญ่
ตายย้อนนกไส่น้อย ผญาแพ้ผาบคืน
๏ ของบ่เป็นตาจ้ำ อย่าสู่จุ่มลงเลิ๊ก
ของบ่เป็นตากิน อย่ากินซิพวนท้อง ๏ ญิงฮูบฮ่าย ครองวัดพางาม
ซายฮูบทราม วิซาพาฮุ่ง
๏ บวยบ่มีด้าม ซิเอาหนังมาค้างแอ่ง
เขาซิเอิ้นกะโปะหมากพร้าว บ่มีเอิ้นว่าบวย
๏ ขนไป่ทันปกท้าย ก็อย่าหันเหียนแล่น ไปนั้น
ปีกไป่ทันหุ้มก้น อย่าท่าแต่ซิขัน
๏ คำปากพ่อแม่นี้ หนักเกิ่งธรณี
ใผผู้ยำแยงนบ หากจักเฮืองเมื่อหน้า
๏ ใจให้เสมอน้ำ คุงคาสมุทรใหญ่
ให้เจ้าคึดถี่ถ้วน ดีแล้วจึ่งค่อยจา
๏ อย่าได้ทำใจเพี้ยง เขาฮอขมขืน
ความคึดเจ้าอย่าตื้น เสมอหม้อปากแบน
๏ อยู่ให้ปลูกมอน หนีให้ซ้อนฮั้ว
๏ อยากทุกข์ ให้เป็นนายคน
อยากสนละวน ให้เอาเมียน้อย
๏ อยากกินหลาย ได้กินท่อก้อย
อยากกินน้อย ได้กินท่อหัวโป้มือ
๏ อยากไวให้คลาน อยากนานให้แล่น
๏ หลีกลิง ให้ไกลสามศอก
หลีกหอก ห้ไกลสามวา
หลีกคนพาลา ให้ไไกลสามโยชน์
๏ ว่าโตกะดัด เพิ่นแฮงกะด้อ
ว่าโตนั้งย่องย้อ เพิ่นพัดนั่งยองตอ
๏ ให้ตื่นเดิกคือกา หากินคือไก่
๏ ฮักงัวไห้ผูก ฮักลูกให้ตี
๏ เฮ็ดนาอย่าแพงกล้า ไปค้าอย่าแพงทึน
๏ แฮ้งคาบมา กาคาบออก
๏ บ่อนสนุกอย่านอน เมียวอนอย่ายิน
๏ บ่อนบ่สมพอนั่ง อย่านั่งลับไล
บ่อนบ่สมพอไป อย่าไป
๏ ไก่บ่สมพอฆ่า อย่าฆ่า
ม้าบ่สมพอขี่ อย่าขี่
๏ แหวนงาม ย้อนหัว
ผัวงาม ย้อนเมีย
ผัวเป็นเพีย เพราะเมียใจฮู้
๏ อยู่ให้เพิ่นว่าดี หนีให้เพีนคิดฮอด
๏ เพิ่นบ่เอิ้นอย่าขาน เพินบ่วาน อย่าซ่อย
มักซ่อยแท้ ให้พิจารณา
๏ บ้านอยู่ใกล้ป่า อยู่เฮือนเพ
บ้านอยู่ใกล้เซ อึดปลาแดก
๏ ก่งามย้อนขน คนงามย้อนแต่ง
๏ เก้าอดเป้าเยื้อน หากจะได้ต่อนคำ
๏ ความดีฝังไว้เก้าศอก ความซั่วสักออกเก้าวา
๏ เฮือไหล ท่ายัง ไฟไหม้ป่า ดอยยัง
๏ เซื้อหมากต้อง บ่ห่อนหล่นไกลกก
แนวผมดก บ่ห่อนเป็นหัวล้าน
๏ สิบตำลึงอยู่ฟากน้ำ อย่าได้อ่าวคะนิงหา
สองสลึงแล่นมามือ ให้เจ้ากำเอาไว้
๏ ได้เมียดี ปานแก้วคูนล่าง
ได้เมียซ่าง ปานแก้วคูนเฮือน
ได้เมียบิดเบือน ปานแก่ไม้ทางปลาย
๏ มีเงินล้น เต็มถง อย่าฟ้าวอ่ง
ยามเมื่อทุกชะมอดไฮ้ เมื่อหน้าส่องบ่เห็น
๏ เงินหากหมดเสียแล้ว ขวัญยังดอมไถ่
อันว่า ผ้าขาดแล้ว แซงนั้นหากยัง
๏ อย่าจกฮูงูเห่า อย่าเซ่าของเพิ่นมากิน
๏ ทุกข์ให้เลี้ยง ปากเกลี่ยงให้ใล่หนี
๏ นั่งให้เบิ่งที่ หนีให้เบิ่งบ่อน
๏ นุ่งผ้าลาย หมาเห่า
เว่าความเก่า ผิดกัน
๏ เบิ่งคน ให้เบิ่งหน้า
เบิ่งผ้า ให้เบิ่งเซีง
๏ เบิ่งซ้าง ให้เบิ้งหาง
เบิ่งนาง ให้เบิ่งแม่
๏ เบิ่งวัด ให้เบิ่งถาน
เบิ่งบ้าน ให้เบิ่งครัว
๏ อยากทุกข์ ให้เป็นนาย
๏ อยากสบาย ให้เป็นแหล้ง
๏ ตกหมู่แฮ้งเป็นแฮ้ง ตกหมู่กาเป็นกา
๏ หมั่นหลังด้าน ขี้คร้านหลังหัก
๏ ของกินบ่กินมันเน่า ของเก่าบ่เล่ามันลืม
๏ ใจหนักได้กินข้าว ใจเบาได้กินกอยหัวใหญ่
๏ เงินเต็มพา บ่ท่อผญาเต็มปูม
๏ ถ่มน้ำลายให้เบิ่งป่อง นั่งยองย่อให้เบิ่งหว่างขา
¯¯¯¯¯¯¯¯¯¯¯¯¯¯¯¯¯¯¯
คำผญาแบบคำสอน
สิบเบี้ยอยู่ฟากน้ำ อย่าโอ้อ้างคะนึงหาสองสลึงมามือรีบกำเอาไว้
มีเงินบ่มีคำเฝ้า จาหนีมื้อฮ้อยเทื่อ
มีคำบ่มีฮ้อย คอยได้กะบ่ฟัง
ไม้ลำเดียวอ้อมฮั่วกะบ่ไขว้ ไพร่บ่พร้อมแปลงบ้านบ่เฮียง
คันได้เป็นนายแล้ว อย่าสะลืมคุณพวกไพร่ คันได้เป็นใหญ่แล้วอย่าได้ลืมข้าราษฎร
คันได้หมุนหมอนแล้วอย่าลืมคุณแขนศอกอย่าเฮ็ดคือตอกมัดกล้า ดำนาแล้วเหยียบใส่ตม
มีความรู้เต็มพุงเพียงปาก ซอยโตเองบ่ได้ใผซิหย้องว่าดี
มีข้าวเต็มเล้า บ่ท่อมีปัญญาเต็มพุง
มีเงินเต็มตู้ บ่ท่อมีความรู้เต็มพุง
เงินคำนี้มีหลายแต่ผู้หมั่น ผู้ขี่คร้านหาได้กะบ่หมาน
เซื้อซาดจ้อง คันก่องกะยังหุบ ซาตาหลุบหลูปลงคือจ้อง
แนวนามเซื้อ เสือจำศีลอย่าฟ้าวเซื้อ ขาดไปพอตอนซิ้น ศีลซิล่างขาดกระเด็น
แม้นซิทุกข์ยากใฮ้เข็นขาดแลงงาย บ่หอนลืมศีลธรรมพร่ำเพรียรรักษาไว้ บ่ฮอนไลลืมถิ่มคลองธรรมหีดเก่า คลองพระพุทธเจ้า เฮาได้สั่งสอน ถึงซิทุกข์ยากฮ้อน ขาดแหว่งบ่สมบูรณ์ ประเพณีทำบุญพ่อแม่เฮาบ่เคยลืมถิ่ม เอาความดีเป็นลิ่มสลักใจไว้คงที่ สามัคคียึดไว้บ่ไลถิ่ม หีดคลอง หุ่ย ๆ ฆ้องสังฆ์บป่าวทำความดี มีวันศีลวันพระ บาปกรรมให้เฮาฮู้ ปวงหมู่ย่าครูเจ้าบำเพ็ญธรรมเพียรพร่ำ เป็นผู้นำสอนให้จิคใจได้ ผ่องใส
ทุกข์ยากไฮ้ให้พอได้แบ่งกันกิน คนเฮามีศีลธรรมอยู่นำกันได้
คันได้ดีมีหน้าให้โงมาเหลียวเบิ่ง โรงเรียนกกบ่อนเค้าสอนเฮาได้ ก. ไก่ มา เคยศึกษาอยู่นี้หลายปีจนว่าใหญ่ ยืนอยู่จุดนี้ใด โรงเรียนให้ส่วนหนึ่งเด้อ
คันเจ้าได้ขี่ซ้างกังห่มสัปปะทน อย้าสิลืมคนจนผู้ขี่ควายคอนกล้า คันได้เป็นหัวหน้า นายคนอย่ามาดใหญ่ อย่าสิลืมพ่อใหญ่แม่ใหญ่ทั้งพ่อลุงแม่ป้าทำนาข้าวสู่กิน
- คันได้กินต่อนซิ่นอย่าลืมคุณปลาแดก คันได้กินลาบก้อยอย่าลืมจ้ำแก็วบอง คันได้ปลาแล้ว อย่าลืมปูปลาปล่อย ลางเถือปลาขาดข้องยังซืได้ป่นปู
นุ่งเสื้อลายหมาเฮ่าเว้าความเก่ามันเล่าติดกัน
ใผสิเล็งเห็นได้ ต่อแหลมในน้ำใหญ่
ตีนบ่ไปตำต้อง บ่มีฮูว่าตอ
³³³³³³³³³³³³³³³³³³³³
คำผญาสุภาษิตเกี่ยวกับความสามัคคี
๏ เงินเต็มพา บ่ท่อผญาเต็มปูม
๏ ถ่มน้ำลายให้เบิ่งป่อง นั่งยองย่อให้เบิ่งหว่างขา
๏ ฮักผัวให้ มีใจผายเพื่อ
ฮักผัวให้ฮักพี่น้อง แนวน้าแม่ผัว
๏ ฟันเฮือไว้ หลายลำแฮท่า
หม่าข้าวไว้ หลาายบ้านทั่วเมือง
๏ เฮือนใด๋ ยามกินข้าว หลายพาหมับแมบ
เฮือนนั้นเสิกบ่มั้ว ใจน้ำบ่คล่องปลา ๏ เฮือนใด ยามกินข้าว พาเดียวเป็นหมู่
คำฮักยังซ่างตู้ม กันไว้หมื่นอะสง
๏ ผมบ่หลายให้ตื่มซ้อง ที่น้องบ่หลายให้ตื่มเสี่ยวตื่มเกลอ
๏ ฮั้วหลายหลักจึ่งมั่น พี่น้องหลายชั้นจึ่งดี
พี่น้องบ่หลาย ให้หาสหายมาตื่ม
๏ แก้วบ่ผัด สามปีเป็นแฮ่
พี่น้องบ่แว่ สามปีเป็นเพิ่น
๏ เฮ็ดกินอย่าคร้าน เข้าบ้านอย่าอาย
เห็นคนตาย อย่าขี้เดียด
๏ อันว่าผัวเมียฮ้าย ยามเดียวก็เป็นเพิ่น เสียแล้ว
บาดว่า พี่น้องฮ้าย คือขี้บ่เหม็น
๏ เฮือคาแก้ง เกวียนเห็นให้เกวียนแก่
บาดว่าไปฮอดน้ำ เฮือซิได้แก่เกวียน
๏ เฮือนบ่มีสีหน้า กาบินมามันซิล่วง
มีเฮือน คันบ่มีพ่อเหย้า โจรซิเข้าล่วงเฮือน
๏ จันทร์ในแจ้ง ดวงเดียวบ่มีค่อง
บ่มีดาวแวดล้อม จันทร์เจ้าก็บ่เฮือง
๏ หนองบ่มีขอนคั่น ซาวแหเขาซิหว่าน ลงแล้ว
มีวังบ่มีเงือกเฝ้า คนใบ้ก็บ่ยำ
๏ โทษบ่ทันเถิงกวาน เถิงสารให้ค่อยอ่าน เอาท้อน
สิ่งที่ผิดพลาดพลั้ง อภัยให้เทื่อเดียว
๏ มีดง บ่มีไม้ เอาอันใดมาเป็นป่า
มีหนองคันบ่มีหญ้าปล้อง ปลาซิบ้อนอยู่บ่อนใด
๏ ให้เจ้าเอายาวไว้ คือกาคาบเต่า
อย่าได้เฮ็ดอุ้งปุ้ง คือฮู้งคาบกา
๏ ให้เจ้าเอายาวไว้ คือสินชัยฟันไฮ่
ปีนี้ได้แต่ปล้ำ ปีหน้าจึ่งค่อยฮอน
๏ อย่าได้ไขปะตูไว้ โจรขโมยสิฮู้เมื่อ
อย่าได้ปะป่องท้าง ปลาซิฮู้เมื่อคีง
คำผญาสุภาษิตเพื่อความยุติธรรม
๏ บ่อนสูงให้อ่ำ บ่อนต่ำให้ยอ บ่อนบ่พอให้ตื่ม
๏ ผู้กิน กินพอฮาก ผู้อยาก อยากพอตาย
๏ มือยาวสาวได้ สาวเอา
๏ ปลาใหญ่ กินปลาน้อย ปลาส้อย กันปลาซิว
๏ อย่าฆ่าคนดี อย่าตีคนคุ้น
๏ อย่าอวดอ้างผญา อย่าว่าคนทุกข์
๏ ตีนช้าง เหยียบปากนก
๏ ฝนตกโห้ง ไหลไปโฮม แต่โพนปลวก
บวกหมู มีบ่แพ้ ฝนเห้ง แล่นกาย
๏ เห็นว่า ขอนไหลน้ำ อย่าคองคอยว่าขอนคอก เทื่อเนอ
ลางเทื่อหลายมื้อลงแซ่น้ำ ยังซิปี้นป่งใบ บ่ฮู้
๏ อย่าได้ติแถลงเว้า เอาเลามาจักตอก
บาดว่า จักบ่ถึกข้อ หย้อบ่ถึกปล้อง มันซิเสี้ยวใส่มือ
๏ อย่าฟ้าว ติเตียนเว้า ผักกะเดาขมขื่น
บาดว่ากินลาบก้อย ยังซิโอ้อ่าวหา
๏ อย่าได้ลื่มคุณเฒ่า แมวบักดำโตเกิดก่อน
หนูบ่กัดเสื้อผ้า ก็เป็นย้อนเพราะแมว
๏ มันหากเหลือแฮงควายบักเลเฒ่า อดสาเล็มกินหญ้าอ่อน
ดังแม่นเขาะน้อยๆ เป็นหน้าอี่ดู หน่ายเด
๏ ซ้างเข้านา อาจญาเข้าบ้าน
๏ อย่าได้เก็บดอกว่าน บ้านเพิ่นมาซม
ให้ค่อย ๆ งอยซานเก็บ ดอกกะเจียวแคมฮั้ว
๏ กินข้าวผี ให้เจ้าจกคอฮาก เคี้ยวหมากผีให้เจ้าจกคอคาย
ให้เจ้าคืนมาดายท้องเปล่า มากินข้าวเก่านำอาวนำอา
๏ แล้วนา ฆ่าควายเถิก
แล้วเสิก ฆ่าคนหาญ
๏ บ่อนอ่อนซ้ำพัดแทง บ่อนแข็งซ้ำพัดเว้น
๏ ทุกข์กายอยู่ได้ ทุกข์ใจอยู่ยาก
๏ อย่าเซื่อใจทาง อย่าวางใจคน มันจนใจโต
๏ ใผผู้อาสาเลี้ยง งูสาไว่ดอมไก่ เป็นลือ
ย้านแต่ดับบ่มั้ว เข็นฮ้ายฮ่วมเฮือน
๏ อย่าได้ติแถลงเว้า เอาเลามาปลูก
บ่แม่นเซื้อซาดอ้อย กินได้ก็บ่หวาน
๏ อย่าได้อาสาเลี้ยง แนวซะนีฮูปค่าง
มันหากเคียวผอกพ้น ผองเท้ากระดูกดำ พุ้นแล้ว
๏ อย่าได้ติแถลงล้ม ตมบ่มีพะลาดมื่น
อย่าสู้พะลาดล้ม เดือนห้าก่อนฝน
๏ คันได้กินต่อนซี้น อย่าลืมแห่งคุณหมา
โจรบ่มาซอมลัก คอบหมานอนเฝ้า
๏ สุกคาต้น บ่ปานฝานหัวบ่ม
เพิ่นบ่มให้ บ่ปานเจ้าบ่มเอา
๏ คันได้กินปลาแล้ว อย่าลืมปูปะป่อย
ลางเทื่อปูขาดข้อง ยังซิได้ป่นปู
๏ คันได้ขี่ซ้าง กั้งฮ่มเป็นพระยา
อย่าได้ลืมเสนา ผู้แห่นำตีนซ้าง
๏ คันเจ้ามีแหแล้ว อย่าลืมซิงห่างการะต่าย
คันเจ้ามีข่ายแล้ว อย่าลืมแฮ้วนกไก่นา
๏ คันได้ยินคำเว้า ขมใน ๆ อย่าฟ้าวจ่ม
ลางเทื่อขมขี้เพลี้ย เมื่อหน้าหากซิดี
๏ คันได้กันลาบก้อย อย่าลืมแจ่วแพวผัก
คันได้กันพาเงินพาคำ อย่าได้ลืมกะเบียนฮ้าง
๏ นกเขาเข้าอยู่ตุ้ม เหงาหง่วมแต่ความทุกข์
แม่นได้งอยคอนเงินคอนคำ ก็บ่ลืมคอนไม้
๏ อย่าสู้ไลเสียถี้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า
อย่าสู่ละเผ่าเซื้อ ไปย้องซาดอื่นไกล
๏ ซ้างซิตายทาวเคือ เสือสิตายทาวเหล่า
๏ ตีหัวปลา สะเนือน หัวนาก
ตีหัวฟาก สะเนือนหัวฝา
ตีหัวหมา สะเนือนหัวเจ้า (ของ)
๏ เห็นเพิ่นทุกข์อย่าทาน เห็นเพิ่นมานอย่าท้วง
๏ บุญหัวบ่เคยได้ สังวาลย์คำพญานาค
ขี้ดินดาก ติดหัวเล็กน้อย โงแง้นว่าแม่นหอน
๏ อีดูตนหม้อ มีคอปากบ่ออก
อีดูหมากลิ้นไม้ มีลิ้นปากบ่เป็น
๏ เห็นว่างูเหลือมใบ้ อย่าบายหางจกปากมันเนอ
บาดว่ามันยอคอขบ เลือดซิไหล ทั้งไข้
๏ ควายบ่กินหญ้า แสนซิข่มก็เขาหัก
หมูบ่กินฮำ แสนซิตี ก็ดังเว้อ
๏ มันหากเหลือแฮงแท้ ดังไฟด้นซุ่ม
ฝนหากรินรวดมื้อ ดังได้ก็บ่เฮือง
๏ หากอยู่ตามกระบวนแก้ว ธำมะโฮง บ่มีหม่นหมองแล้ว
ตมหากมาเกลือกกลั้ว ธำมะโฮงแก้ว จึ่งหม่นหมอง
๏ มันหากเหลือแฮงค้า เต็มสะเภาเล่มใหญ่
ฟองหากมาแล่นกุ้ม แสนซิเว้นก็หากฮุน
๏ หากอยู่ตามกระบวนน้ำ วังใสบ่มีขุ่น เป็นแล้ว
ควายแม่ เก้งมาผอกฮ้าย ฟูมน้ำบ่อยากหนี
๏ หากอยู่ตามขะบวนอ้อย ลำหวานบ่มีเฝื่อนขมแล้ว
เคือเขาฮอ หากมากอดเกี้ยว ลำอ้อย ก็จึ่งขม
๏ ปลาบ่ยินดีบ้อน ซลทีเขีนขาด
หงส์หากซมซื่นเต้า สระพังด้วยดอกบัว
ยุหากแพงตัวล้ำ เฮียวหนามบ่มีเคี่ยน คีงแล้ว
แฮ้งหากเซยซากฮ้าย คีงเศร้าสาปสะอางค์
๏ ซาดที่ของเหม็นนี้ แมงวันเขียวซิหัวต่อ
ขางหากขี้ใส่แล้ว หนอนซิบ้อนบุ่นกิน
๏ กาหากยินสงวนสู้ แสวงซมน้ำาเน่า
แฮ้งหากตบปีกเปื้อง หัวยุ้มเข้าใส่โครง
๏ ยามเมื่อซลทาน้ำ ไหลนองท่วมท่ง
มดบ่มีบ่อนซ้น ปลากั้งอะเฮ่ยหัว
๏ ยามเมื่อเดือนสามเลี้ยง ชลทาน้ำเข็นขาด
มดกะเจาะกะจอกเว้า หัวร่อ ต่อปลา
๏ ยามเมื่อเป็นมันอ้อน ใผก็ซอนเสียมใส่
บาดว่ามันอี่โม้ ใผก็หิ้วกะต่ากาย
๏ ติแต่ควายเขาเลฮ้าย ฮาวสวนเจ้าบ่ถี่
ติแต่แมงมี่ฮ้าย ตีนซิ่นเจ้าบ่เอา
๏ ได้ว่าเป็นเสื้อแล้ว ลายบ่ลายเขากะตู่
แหนงสู้เอาหมิดหม้อ มาแต้มตื่มลาย
๏ ตกกะเทีนได้กำคอแข้ อย่าวางหางให้มันฟาด
ตกกะเทีนเป็นม้า บักก่ำน้อย คันหนีแส้ให้ห่ากิน
๏ ตกกะเทีนได้ปล้ำ สินำฮอนหมดสู่งา
ง่าใดออกนอกฮั้ว ซินำม้วนเข้า ใส่สวน
คิดว่าใจประสงค์สร้าง ทุงไซไว้ให้อาจ
ติแต่คันหากสั้น แขวนไว้ ก็บ่ปลิว
๏ ซาดที่โครงควายฮ้าย ใผเห็นก็คงถ่มน้ำลายแล้ว
มีแต่กา และ แฮ้ง ตัวฮ้ายหากซิฟูม
๏ ตามใจน้ำ ไหลไปตามฮ่อม
บ่ห่อนไหลเผิ่นขึ้น เมือฟ้า ยอดดอย ดอกตี
๏ ซาดที่ดงหลวงกว้าง พึงคะนาเนื้อแกว่น
นกหากซมซื่นซ้อย ลำไม้ง่างาม
๏ อันว่ายุงยางไม้ ลมตียังหักท่อง
บาดว่าเคือหญ้าปล้อง ลมต้องก็บ่เพ
๏ ซาดที่โพธิ์ศรีสร้อย ใบบ่หนา นกบ่แกว่น
หมากบ่หวานจ้อยๆ กาเอี้ยง บ่อยากตอม
๏ บัวบ่มีห่างน้ำ หวังฟูม เท่าซั่วซีวังแล้ว
พระจันทร์บ่มีพ่างข้าง แฝงล้อมเหลี่ยมสะเหม็น
๏ คาดได้เป็นคู่ซ้อน เทียมแนนลือหลีเป็นได้
ราหูบ่ห่อน คาคลาดฮ้าง ฮามแก้ว หน่วยพระจันทร์
๏ นกบ่ยินดีด้วย สาขาบ่มีง่า
สระบ่มีดอกไม้ คนาเนื้อบ่สงวน
๏ เห็นว่าดำขี้หลี้ อย่าฟ้าวขี่เฮือกาย
เห็นว่าดำคอยลอย อย่าฟ้าวพายเฮือเว้น
๏ คันว่าใจประสงค์แล้ว กลางดงก็ว่าม่อ
คันใจขี้คร้าน กลางบ้านก็ว่าไกล
๏ คันว่าใจบ่โสดาด้วย เว้าแม่นก็ว่าผิด
ใจบ่โสดาดอม เว้าดีก็เป็นฮ้าย
๏ อันว่าทางหลายเส้น ตามใจผู้ซิไต่ เอาท้อน
เจ้าหากมักเส้นเหวิ้ง ทางเลี้ยวก็หากมี
¬¬¬¬¬¬¬¬¬¬¬¬¬¬¬¬¬¬
คำผญาสุภาษิต บ่าว สาว
๏ อ้ายนี้เป็นดั่งเฮือสะเภาค้า บ่หนีฟองแก้งใหญ่
อ้ายซิเบ็ดใส่เฝือน อ้ายซิเบือนใส่ก้อน
อ้ายซิย้อนใส่แก้ง ตำแล้วจึ่งซิถอย
๏ ซาดที่กาดำปี้ อยากเทียมหงษ์ ก็ยินยาก
ซาดที่แสงหิ่งห้อย ซิเยืองแจ้งแข่งพระจันทร์ได้ลือ
๏ เพิ่นหากลือซาซ้าง พลายสานดอตัวอาจ
ใผผู้ลวนนั่งใกล้ งาซ้างซิเสียบแทง
๏ ซาดที่มาลานี้ ดวงหอมฮดฮ่วง
ใผผู้ได้มานั่งใกล้ ดมแล้วบ่อยากหนี
๏ ใจบ่ใสต่อแก้ว แยงเงาก็บ่ส่อง
ใจบ่ใสต่อฆ้อง ตีได้ก็บ่ดัง
๏ เจ้าผู้หงส์คำผ้าย ปลายเขาคันธมาศ
ลุกขามีหมื่นต้น ตัวเจ้าหากเผ่นหนี
๏ ซาดที่คุงคาน้ำ สมุทรหลวงบ่มีขาด สะเภาแล้ว
บุญน้ำยังเปี่ยมล้น หลายฮ้อย จะฮ่วมโฮม
๏ ซาดที่ดวงหอมนี้ ซิบานดายแล้วเปล่าเป็นลือ
ความคึดแมงภู่ยังเท่าฟ้า ซิหมายม้างกระดูกดอม
๏ ซาดที่ดวงหอมนี้ ซิบานดายแล้วเปล่าเป็นลือ
ใผผู้มานั่งใกล้ ซมแล้วบ่อยากหนี
๏ สัจจะแม่ญิงนี้ เสมอกันกับยองนุน
บาดว่าลมพัดต้อง คองท่าแต่สิปลิว
๏ สัจจะแม่ญิงนี้ คือกวยตาห่าง
บาดว่าถิ่มใส่น้ำ ไหลเข่าซู่ตา
๏ สัจจะผู้ซายนี้ คือหินหนักหมื่น
แสนสิเอาเซือกทื่น ดึงได้กะบ่ติง
๏ สัจจะผู้ซายนี้ คือหินหักท่อง
บาดว่าถิ่มใส่น้ำ จมปิ้งบ่ฟู
๏ ฟ้าซิฝน ฟ้าขาวดาวแจ้ง ฟ้าซิแล้ง ฟ้ามืดฟ้ามัว
๏ ผิดใจเด้นากอยู่น้ำ สังบ่ซ่างปันแดน
แถนอยู่บน สังบ่ซ่างปันเบ้า
๏ อ้ายนี้เป็นดังจอกอยู่น้ำ ฮากหยั่งบ่เถิงดิน
มีแต่ไหลเวินไปเวินมา บ่มีเฟือยค้าง
๏ ตกกะเทินว่าได้ปล้ำ ซินำฮอนหมดทุกง่า
ตราบใด๋พร้าบ่บ่านขวานบ่เบี้ยว จำป้องแมนบ่เซา
๏ อ้ายนี้เป็นดังหมาดำน้อย แหงนคออยู่ก้องตาล่าง
นางบ่ถิ่มก้างให้ หมาน้อยส่วนซิตาย
๏ อ้ายนี้เป็นดังควายบักเลเฒ่า หากินแต่หญ้าอ่อน
หญ้าแก่มีบ่แพ้ บักเลเฒ่าบ่อยากกิน
๏ อ้ายนี้เวียนหาน้อง คือควายเลียนแล่ง
มีแต่ปิ่นแคว้งๆ ทางเข้าแมนบ่มี
๏ อ้ายนี้เป็นดังปลาเข็งข่อน หนองนาน้ำเขินขาด
ฝนบ่มาโผดให้ ซิตายแล้งแดดเผา
๏ อย่ามาติแถลงลิ้น แถลงกินแกงไก่
ซาดที่คนผู้ใหญ่นี้ หาเว้าก็หากคือ
๏ ฝนตกยังฮู้เอี้ยน กบกินเดือนยังฮู้อิ่ม
บาดว่าอ้ายฮักน้อง บ่มีมื้ออิ่มเป็น
๏ เคือบุ่นเกี้ยว เคือบุ่นซ้ำผัดมาย
เคือหวายเกี้ยว เคือหวายซ้ำผัดเน่า
๏ ใผซิเล็งเห็นได้ ภายในบ้องไม้ซอด
ย้านแต่มอดลักดั้น ในหั่นหมื่นโต
๏ ใผซิเล็งเห็นได้ ภายในบ้องไม้ใผ่
มอดหากมาลักซี แมงอีหากมาลักดั้น ในหั่นส้องบ่เห็น
๏ มาเห็นน้ำวังใสคิดอยากอาบ ย้านแต่มีเงือกเฝ้าในน้ำ บ่ส้องเห็น
๏ ใผซิเล็งเห็นได้ ภายในบ้องไม้ใผ่
มันหากเป็นก้ำแพ่ง แมงข่อส้องบ่เห็น
๏ ใจประสงค์ต่อไม้ จึงได้แบกขวานมา
ใจประสงค์ต่อเฮือซาววา จึงแบกขวานมาพร้อม
๏ เจ้าผูเซื้อซาดซ้าง หากินแต่เฮียวใผ่
อ้ายนี้เซื้อซาดม้า หากินหญ้าแทดขี้ดิน
๏ บ่แม่นแนวแหลวบี้ ซิไปเบียดฝูงกา
บ่แมนแนวราหู ซิเบียดเบียนพระจันทร์ได้
๏ ซาดที่แนวนามแบ้ เทียมสานห่อนสิเกิ่ง
ซาดที่แนวกาดำ บ่ฮอนเทียมหงส์ได้
๏ แนวนามแก้ว เทียมหินห่อนซิแมน
แนวนามแหวนค่าล้าน เทียมสร้อยห่อนซิสม
๏ ขมผักขมหญ้า ขมขี้กากลืนยาก
คั้นแมนขมขี้เพลี้ย ซิกินเกลี้ยงบ่เหลือ
๏ สีซมพูหมากหว้า ขาวกาหายาก
เหลืองเข่าหมิ้น หาได้ซู่ยาม
๏ แจะน้ำเผิ้ง หวานเลิงน้ำขี้สูด
แจะน้ำอ้อย หวานจ้อยน้ำหมากนาว
๏ เจ้าผู้ผักอีตู่เตี้ย ต้นต้ำใบดก
กกบ่ทันฝังแหน่น สังมาจูมจีดอก
ฮากบ่ทันป้งพื้น สังมาปิ้นป้งใบ
๏ อย่าสู้มาล้อแล้ ฮังแตนมันซิไล่
อย่าได้เอาไม้แส้ มาล้อแหย่แตน
๏ อีดูตนเป็ดน้อย อยากนอนคอนนำไก่
ตีนเปี่มเปอเปี่มเป้ย บินขี้พะลาดลง
๏ มดแดงเฝ้า อำพามี้ม่วง
กินก็กินบ่ได้ ทะลอนตุ้มตั้งเเต่ใบ
๏ อ้ายนี้เป็นดั่งไม้ โงเงบ่เป็นแอก
คดก็คดแต่ตอ งอก็งอแต่ไม้ แต่ตัวอ้ายพัดเที่ยงธรรม
๏ ตกกะเทีนได้ไปทางหน้า จะหากินปลาหนองใหม่
หนองเก่ามีบ่แพ้ แสนซิบ้อนก็บ่งม
๏ อัศจรรย์งูเหลือมอ้อ กระสันตายดอมเขียด
เขียดบ่เอื้อ เหลือมอ้อหากกระสัน
๏ เจ็บอกปานไฟไหม้ เจ็บใจปานฟ้าผ่า
เจ็บบ่าแบกไม้ตี้ว เดือนห้าก็บ่ปาน
๏ คันแม่นเป็นตาได้ ซิคาดห้างลงสระ
คันบ่เป็นประการใด ซิแบกกะเซอคอนกะโซ้
๏ คันบ่เป็นตาส่อน ซิคอนหวีงเมือตาก
คอนดากขี้โม้ เมือต้อนป่าหมากยาง
๏ คันแม่นเป็นตาได้ ซิคาดห้างลงสระ
เอาให้เห็นโตปลา ล่องลอยในน้ำ
๏ น้ำกว้างตื้น อย่าฟ้าว ซื่นใจสระ
น้ำฮอมเลิ๊ก ฮีบฟ้าวถอนใจไว้
๏ เจ้าผู้บัวบานบ้าง กลางสระก้านก่อง
อยู่กลางหนองย่านกว้าง มืออ้านเด่บ่เถิง
๏ เจ้าผู้จันทร์เทียมด้าว เดือนเพ็ง 15 ค่ำ
ขอจงใสส่องแจ้ง แยงอ้ายผู้ประสงค์
๏ หนทางมีหลายเส้น ตามใจผู้ซอไต่
มักเส้นเวิ้ง ก็ตามท้อนผู้ซิไป
๏ สิบแม่น้ำ ซาวแม่น้ำ ก็ซิถ่อเฮือหา
สิบย่านภู ซาวย่านผา ก็ซวิถางทางดั้น
สอบผาคั่น หินผาตันก็ซิสิ่ว
คันแม่นสิ่วบ่ได้ ซิอแต่งขัน 5 ไว้ เชิญฟ้าผ่าลง
๏ เจ้าผู้แพรผืนกว้าง ปูมาให้มันเหลื่อม แด่เนอ
น้องเหลื่อมอ้าย อ้ายเหลื่อมน้อง สคือฟ้าเหลื่อมดิน
๏ ย้านแต่น้อง จิตเดียวเป็นหลายไส้
ใจเดียวเป็นหลายหน่วย จิตหนึ่งเป็นเหลื้องหล้าง คือน้ำอยู่ปาง
๏ บุญหัวบ่สมบุญฮั้ว บุญงัวบ่สมแอก
บุญตาแฮก บ่สมไก่ต้ม งมเลี้ยงก็บ่กิน
๏ ผักกับซี้น ปนกันบ่ห่อนเบื่อ
เฮือกับน้ำ ของแท้คู่กัน
๏ น้ำของกว้างบ่กว้าง ไม้ถ่อหยั่งก็ยังเถิง
แต่ว่าหัวใจคน หยั่งบ่เถิงถิงได้
๏ สิบผืนผ้า ซาวผืนผ้า บ่ปานฟาเนื้ออุ่น
สิบผู้อยู่ซ้อน ซาวผู้อยู่ซ้อน บ่ปานน้องนั่งเฮียง
๏ ย้านแต่ปลาดุกบ้อน วังบอน บ่แม่นบ่อน
ย้านแต่ปลาจาดบ้อน กินน้ำบ่แม่นวัง
๏ นกเขาลงกินข้าว หัวนาเฮาสังบ่ไล่
บาดว่านกปีดตัวน้อย ๆ เป็นสังเจ้าไล่บ่เซา
๏ ฮอมซิเป็นตาได้ แมวกัลหนูซ้ำมาผ่า
คันว่าแมวและหนูบ่มาผ่าม้าง ซิเาได้บ่อนคะมัง
๏ คันน้องไขปากซ้ำ อ้ายซิเงี่ยงกระบุงตัก
คันน้องไขทอยา อ้ายซิจีกตองมาพร้อม
๏ ใผซิหลิงเห็นได้ ในใจ นกขี้ถี่
มันหากฮ้องพืดพึ้ง ใจเลี้ยวใส่กะปู
๏ เฮือนนบ่มีสีหน้า กาบินมามันซิล่วง
มุงหญ้าบ่มีตอกลี้ว ซิไปมั่นอยู่บ่อนใด
๏ อันว่าเคือเขาเกี้ยว ลามดงเต็มป่า
ใผบ่ได้ซ่าย้อง หากหาเว้าตั้งแต่โต
๏ ฝนตกยามเดือนห้า ผู้ใดนอ ซอกล้าแข่ง
บ่แม่นเซื้อหน่อท้าว ซิขันสู้ต่อตาวได้บ่
๏ เหลือแฮงฝนตกเท้ง มาโพนน้ำบ่อั่ง
เหลือแฮงอ้ายนั่งเว้า นำน้องตั้งแต่ดน
๏ ซาดที่เป็นซายนี้ บ่ยอมคนโดยง่าย
บ่ยอมขายขี้หน้า ให้ซาวบ้านเพิ่นหยัน
๏ คันน้องคิดฮอดอ้าย แกงหอยให้มันเปื่อย
แกงปลาให้เปื่อยก้าง แกงซ้างให้เปื่อยงา
๏ ซาดที่กัดสะโปโป้ง เลาเดียวลูกคู่
ฮ้ายกะซิสู้ ดีกะซิสู้ ตายถี้มแม่นบ่แหนง
๏ อ่งต่งหมากขี้กาเฮ้ย ทางในพัดขมขื่น
บาดหมกเขียบหน่ายขี้ฮ้าย พัดหวานจ้อยอยู่ใน
๏ เจ้าผู้คำแดงเข้ม สีเค็มน้ำครั่ง
แม่นซิขังแซ่น้ำ พันมื้อก็บ่จาง
๏ เพิ่นซ่ามากาซ่าเว้า ซ่าว่าโภชนังข้าว เต็มเยียเล้าใหญ่
พ่อแม่น้องเพิ่นพูนผลิตไว้ ขายซื้อสิบมา
๏ เพื่อนซ่าว่าน้องปลูกผักเทียมท้าว กลางบ่อนนอนบ่เหือดบ่อน
ผักเก่ายังบ่ทันได้กู้ ประสงค์ตั้งปลูกเต็ง
๏ คันน้องตายเป็นไหมคำฝั้น พันธะนังอยู่ในหลอด
อ้ายซิตายเป็นไม้ก่ำพั้น พันเข้าก่อ่นกระสวย
๏ คันน้องตายเป็นข้าว กลางนาเขียวอ่อน
อ้ายซิตายเป็นควายด่อนน้อย กินหญ้าอยู่ท่งนา
๏ คันน้องตายเป็นม้า ตัวใหญ่สีลาน
อ้ายซิตายเป็นอาน อยู่เทิงหลังม้า
๏ คันนางตายเป็นกล้า กลางนาเขียวอ่อน
อ้ายซิตายเป็นนาไฮ่หลัง ลงกลิ้งกล่อมกัน
๏ คันน้องตายเป็นม้อน ประสงค์กล่อมดอมไหม
อ้ายสิตายเป็นมอนใบเขียว กล่อมกันในด้ง
๏ คันน้องตายเป็นบ้ง ประสงค์สอดสาขา
อ้ายซอตายเป็นสกุณา แส่วกินแมงบ้ง
๏ คันน้องตายเป็นดง อ้ายซิตายเป็นเนื้อ
เฝือกันคือไหมกล่อม คันน้องตายเป็นหอม
อ้ายสิตายเป็นต่อนซิ้น ลงหม้ออ่อมใส่กัน
๏ น้องซิไลอ้ายถี้ม คือจอกอยู่กลางแซง
น้องซิใลอ้ายถี้ม คือแตงอยู่กลางไฮ่
บาดว่ากินหมากแล้ว ซิใลถี้มตั้งแต่เคือ
๏ เหลือแฮงอ้าย ทั้งพายทั้งถ่อ
มีแต่ไม้ถ่อจ้ำ มีแต่น้ำถ่อย้อย เพาผ้าซุ่มเลิง
๏ เป็นสังน้อง อึงตึงมาบ่ปาก
หรือว่าแม่น้องป้อนซิ้นแข้ ขอกะแจปากบ่เป็น
หรือว่าแม่น้องป้อนซิ้นซ้าง คางกระด้างปากบ่เป็น
๏ บ่มีล่มจมเสียย้อน ธรรมเนียมค่าคำปาก
บ่พอเสียคำค่าล้าน คันนางต้านต่อพี่ซาย
๏ เห็นว่าทุกข์ย้อน ๆ ขอนอนเฮือนอย่าย้านแก่นหลายเนอ
อ้ายบ่แก่น ดอกข้าว แต่คำเว้าแก่นทุกคน
๏ อ้ายนี้แนวนามแบ้ หากินไกลถิ่น
มาพบพุ่มหมากเขือ มาพบเคือหมากแค้ง
มาพบแซงหมากพร้าว คราวนี้บ่อยากหนี
๏ ให้น้องอดสาเลี้ยง ควายโซไว้ท่าห่า
บาดผีห่ามาฮอดแล้ว จึ่งวางถี้มให้ห่ากิน
๏ เจ้าผู้หงส์คำฝ้าย บ่หมายงอยต้นไม้ต่ำ
เบ็ดใส่ไม้แก่นสูง เบ็ดใส่ยูงแก่นหล้อน
เบ็ดใส่คอนแก่นแต้ ลำดั้วจึ่งค่อ่ยงอย
๏ ตกกะเทีนได้กำคอแข้ บ่วางมือให้หางมันฟาด
ตกกะเทีนได้กำคอกะท้าง บ่วางให้แก่ผู้ใด
๏ ตกกะเทีนได้ลงบายม้วน บ่เป็นบุงให้เป็นกะต่า
คันบ่เป็นซ้าผ้าอ้อม ให้เป็นข้องใส่ปลา
๏ คันตมติดให้เอาตมล้าง แถมลงให้มันหม่น
คันน้ำติดให้เอาน้ำล้าง แถมซ้ำให้ตื่มงาม
๏ อ้ายนี้เป็นดั่งควายบักดำน้อย หลงฮอยพรากแม่
น้องบ่หลกหญ้าป้อน น้องบ่ถอนหญ้าเลี้ยง ความน้อนส่วนซิตาย
๏ เจ้าผู้เมือหวั้ง ๆ บ่เหลียวหลังเอี้นสั่ง
คันบ่เอี้นสั่งใกล้ ก็พอเอี้นสั่งไกล
๏ อ้ายนี้เป็นดั่งเกวียนสีฮ้าง บ่มีงัวเทียมแก่
คันแม่นควายบ่เทียมแก่ให้ เกวียนซิค้างโคกซะเทีน
๏ คิดไปหลายนับมื้อยุ่ง คือยุงอยู่ในป่า
คิดไปหลายนับมื้อพ้อ พอไก้อยู่ซู่ยาม
๏ เจ็บอกปานไฟไหม้ เจ็บใจปานฟ้าผ่า
เจ็บตาปานไม้ค้อน คะเนีนปล้ำต่อยตี
๏ คันนางตายเป็นฝ้าย หลาไนให้เขาแกว่ง
อ้ายซิตายเป็นไม้กำพั้น พันกลิ้งก่อนแพร
๏ อย่าได้เทียวทางเวิ้ง เหิงหลายมันซิค่ำ
ให้น้องตัดบาท ให้น้องปาดเฟื้อง ลงบั้นบ่อนซิ้เอา
๏ น้องผู้เที่ยวทางเวิ้ง ให้ถือทิงบังใหญ่
บาดเข้าฮ่มบก ยัง.ได้ส่วยหน้า
บาดว่าเข้าฮ่มหว้า ยังซิได้ส่วยคีง
๏ อ้ายนี้แนวนามน้อย หมากหอยนาหน้าต่ำ
แม่นซิตัดไม่ปล้ำ แม่นซิค้ำไม้ยู้ ซูขึ้น ก็บ่สูง
๏ เจ้าผู้แนวนามม้า อาซะไนมะนีกาบ
ซิมาเดินไต่พื้น คืออ้ายห่อนซิเป็น
๏ สิบปีล้ำซาวปีล้ำ จึ่งเห็นโอ่งมายามมั่ง
ข้าวขึ้นเล้า จึ่งเห็นเจ้าเทื่อเดียว
๏ เจ้าผู้ต้นดอกงี้ว คะนิงฮอดปลายบก
เจ้าผู้แนวนามนก อย่าได้ไลเสียแฮ้ว
๏ เจ้าผู้แนวหน่ายแก้ว อย่าได้เปิดดินทราย
เจ้าผู้แนวควายเขา อย่าได้ลืมควายตู้
๏ อ้ายนี้คอยหาน้อง คือนกทาคอยปลวก
คือดั่งฮวกอยู่น้ำ คอยท่าห่าฝน
๏ น้องผู้เซื้อซาดน้ำ ส่างใหญ่ใสเย็น
ใผซอเป็นคนตัก หม่อมพะนางมาไว้
๏ น้องผู้เซื้อซาดไม้ ลำยาวขาวซือ
คันซิให้อ้ายซื้อ พันล้านก็วซิเอา
๏ เจ้าผู้เดือนเพ็งแจ้ง มีแสงสังบ่ส่อง
เจ้าผู้ดาวดาดฟ้า บ่แยงพื้นแผ่นไต แด่บอ
๏ ตองตัดยังมีส้น ไหมสนยังมีเงื่อน
เชิญอ้ายปลงเงื่อนไว้ หมายมั่นบ่อนซิเอา
๏ เจ้าผู้เซื้อซาดซ้าง ยศใหญ่ สกุลสูง
อ้ายยอยากยองหลังขึ้น ไปยืนตายเป็นแย่ง
อยากเป็นแหล้งฮับเลี้ยง อวนน้องคู่ซู่ยาม
๏ อันว่าเซื้อซาดน้ำ กว้างใหญ่วังเลิ๊ก
อ้ายอยากลงลอยซม ให้สว่างใจหายฮ้อน
๏ คันแม่นใจประสงค์แล้ว หนามกะแทวก็ซิผ่า
แม่นมีป่าขี้อ้น พันซั้นก็ซิถาง
๏ อ้ายนี้เว้าแล้วเอา สนเคาแล้วขี่
ปี้งแล้วจี่ สุกแล้วก็กิน
๏ คันสิหยับเข้าใกล้ ย้านกีดพวงหลา
คันซิหยับเข้าหา ย้านหมาน้องเห่า
๏ บ่เห็นหน้า เห็นแต่นาก็พออยู่
เห็นแต่เสื้อพาดแจ เห็นแต่แพรพาดฮั้ว
ได้ยินเสียงหัวอยู่ในบ้าน ก็ปานได้นั่งลม
๏ ตีหลังด้วยไม้แส้ พัดเอามามาลูบไหล่
แสนซิใซ้น้ำอ้อย มาออยน้องก็บ่ลืม
๏ ย้านแต่ป่าหญ้าแปก บ่เกิ่งหญ้าควาย
ย้านแต่ป่าหญ้าหวาย บ่เพียงหญ้าอ้อย
๏ ความมักหลาย ความอายหน่อย โตซิตายบ่อฮู้เมื่อ
ความมักมาแล่นกุ้ม กุมไว้ก็บ่ฟัง
๏ บัวบานบ้าง กลางสระพังบ่มีคู่
คันแมงภู่บ่มาซ่วยเกี้ยว บัวซิค้างเคิ่งวัง
๏ เพีนว่า ดาวสะเด็ดดั้ว บ่หมายลงเกลือกขี้ฝุ่น คือกันกับน้องอุ่นหล้า บ่หมายซ้อนบ่าวพี่ซาย
๏ เจ้าผู้อิ้งติ้ง เจ้าผู้ติ่งมันแกว
เจ้าผู้แนวมันเพา อย่าได้ลืมเสี่ยมเหี้ยน
๏ อ้ายเหมือนดั่งนกเต็นเต้น สะเด็นลงมาก่อน
น้องนี้เหมือนนกเจ่าจั้ง คอยล้าอยู่ดาย
๏ มันหากเหลือแฮงแฮ้ง ควายบ่ตายสังมาเซิน
กาบ่มาซ่วยแฮ้ง บ่คองได้แจ่วแลง
๏ เสียแฮงห้าง กฐินแฮ บ่ได้แห่
บาดผู้เพิ่มบ่ห้าง ก็ยังได้แห่ไป
๏ ไหมคำยุ่ง เต็มบุง บ่เห็นเงื่อน
บาดว่าอำเงื่อนไว้ เห็นส้นค่าวา
๏ เจ็บด้วยคำปากนี้ หนักกว่าแก่นกะยุงตี
แสนซิปัวยาหยัง ก็บ่มีหายได้
๏ ตกกะเทินว่าได้ลงทึนค้า เสียดายทึนบ่ห่อนแม่น
ฆ่าควายเสียดายหมากเผ็ดน้อย ซิไปก้อยใส่หยัง
๏ ตกกะเทินได้ไปคล้องซ้าง เอาจนได้ขี่มา พุ้นแล้ว
๏ ใผสิหลิงเห็นได้ ในใจนกขี้ถี่
ความปากหวานจ้อย ๆ ใจส้มดั่งหมากนาว
๏ ลายคนนี้ บ่คือลายซ้าง เสือสางซ้างป่า
อธิบายบ่ได้ ใจนั้นส่องบ่เห็น
๏ น้องนี้แจ้งคือดาว ขาวคือฟ้า ใสงามคือหน้าแว่น
แบนฝ่ามือฮับต้อน เชิญท้อนผู้ประสงค์
๏ เก้าซิแจ้ง สิบซิแจ้ง อย่ามีเมฆมาบัง
อย่าได้มีราหู เบียดเบียนพระจันทร์ได้
๏ บุญบ่เคยขี่ม้า ย้อนมันแล่นสะเด็นตก
บุญบ่เคยจกฮู จกแขนลงพัดคาเงื้อม
๏ บุญบ่เคยเข้าถ้ำ คลำไปบ่ฮู้ซอด
บุญบ่ฮอดยอดแก้ว ปีนขึ้นก็บ่เถิง
๏ บ่เคย ก็ลองเล่น บ่เป็นก็ลองเบิ่ง
บุญบ่เคยปั่นบ้าง ซิลองเล่นฮ่อมขี้ทราย
๏ เจ้าผู้งูเหลือมอ้อ หากินตายตั้งแต่เต่า
สังบ่ขึ้นโคกกว้าง หากินซ้างค่าแพง
๏ อ้ายนี้ตั้งใจปากนำน้อง จนซิแจ้งไก่ขัน
มักบ่มักก็ให้ลมเล่น เหงานอนตางให้สว่าง
พอได้เป็นพี่น้อง เมื่อหน้าตื่มสหาย
๏ คันอ้ายมีเมียแล้ว อย่าลงเฮือนให้หมาเห่า
ให้อ้ายนั่งเค้าเม้า ไพหญ้าอยู่เฮือน
คำผญาเกี้ยว
ช. อ้ายขอถามข่าวน้อง ถามข่าวเถิงปลา ถามข่าวนาถามหาเถิงข้าว ถามข่าว เจ้าว่ามีผัวแล้วหรือบ่ หรือว่ามีแต่ซู้ ผัวเจ้าแมนบ่มี
ญ. น้องนี้ แต่ผัดเป็นสาวขึ้น บ่มีซายมาม่าย แตผัดเป็นต้นไม้ เคือซิเกี้ยวกะบ่มี
ช. ว่าบ่มีเคือเกี้ยวสังมาเป็นยามย่าง ว่าตะล่างบ่กว้างสังมาได้ผูกควาย
ญ. น้องนี้ปอดอ้อยส้อย เสมออ้อยกลางกอ กาบกะบ่ห่อหน่อน้อยกะบ่ซอน ซู้บ่ ซ้อน ผัวน้องกะบ่มี
ช. โอ้ยเป็นวังกะบ่มีขอนขวางกัน พรานแหสิบ่หว่านลื้อหล่า มีเฮือนบ่มีพ่อเหย้า โจรสิขึ้นลักของ มีกลองคันบ่มีหนังหุ้ม แสนสิตีบ่มีม่วน ตีท่อใด๋กะบ่ตุ้มคันแนวหุ้มบ่แมนหนัง เวียงวังคันบ่มีคนเฝ้า แสนสิงามกะหมองหม่นเด้หล่า
ญ. โอ้ยคันอ้ายเว้าจัง้ซั่นกะสิบส่วนบุญสวน คันแมนบุญสวนมีสิปลูกปลีแกมกล้วย
อย่ามาติแถลงล้มตมบ่มีคะลาดมื่นตั๋วให้คาดลาดล้มเดือนห้าก่อนฝน อย่ามาติ ให้อ้ายล้มตกหล่มหลุมดินล้อให้พายเฮือนำนกเจ่าบินอยู่เทิงฟ้า
^^^^^^^^^^^^^^^
ตัวอย่างผญาฝ่ายหญิงตอบฝ่ายชาย
1. อย่ามาติแถลงเว้า เอาเลามาปลูก บ่แมนเซื้อซาดอ้อยกินแล้วกะบ่หวาน
2. ย่านแต่อ้ายตั๋วให้น้องตกหล่มดินทราย ตั๋วน้องพายเฮือนำนกเจ่าบินอยู่เทิงฟ้า
3. น้องนี้จิตบ่มีสิแขวน แนนบ่มีสิห้อยบินวนคือจั้งว่าว เซือกขาดแล้วประสงค์ตั้งต่อ ลม ลมบ่มาเซยพัดส่วนสิตายคาค้าง
ย่านตั้งแต่อ้ายตั๋วให้น้องล้ม มานกลมท้องอ่อน ตั๋วน้องกินน้ำฮ้อน นอนค้างแม่สะแนนอ้ายเอ้ย
5. น้องนี้ปอดอ้อยส้อย คือดังตองตัด แต่ผัดเป็นญิงมาบ่มีซายซ้อนซอนตักจักเทือ แต่ผัดเป็นพุ่มไม้เคือสิเกี้ยวกะบ่มี
ย่านบ่เป็นคือหว่า สีซมพูคือว่า ย่านคือตอกมัดกล้าดำนาแล้วเหยียบใส่ตมเด้อ้าย
ย่านแต่เว้าบ่แน่คือแตรรถบัสนั่นแหลว อ้ายเอ้ย ส่วนว่าทางน้องนี้คำบ่จริงน้องบ่เว้า คันบ่เอาน้องบ่ว่า คันบ่แมนท่าน้องบ่ตีควายลง ตีลงแล้วมันตีขึ้นยาก ปากว่าแล้วมายม่างบ่เป็นอ้ายเอ้ย
น้องนี้เปรียบคือจอกอยู่ในน้ำ ฮากหยั่งบ่เถิงดิน ไหลเวินไปเวินมากะบ่มีเฟือยค้าง คันสิไหลไปค้างเฟือยฮกเพิ่นกะถาง คันสิไหลไปค้างเฟือยบางเพิ่นกะจูด จั้งได้ไหลล่องเลื่อยเฟือยสิค้างแมนบ่มีอ้ายเอ๋ย
คันบ่มีเมียซ้อนหมอนซายสังมากิ่วแท้น้อ หรือว่านุ่นหมากงิ้วของอ้ายยัดบ่พออ้ายเอ้ย
ส่วนว่าทางน้องนี้บ่มีคู่เทียมสอง อยากได้ซายมาซมว่าจั้งใด๋น้ออ่าย น้องนี้ฮูปขี้ล่ายบ่สมพี่คนสวยดอกตี้
วาสนาน้องหน่อย สิลอยลมอยู่คือว่าววาสนาน้องน้อยสิไปค้างอยู่หึใด๋น้ออ้ายเอ้ย น้องมาเสียดายแก้วตกกลางกอไผ่เด้น้อ แมนผู้ใด๋สิได้ไปไว้ท่าหล่ำแยงน้ออ้าย
น้องนี้ทุกข์ยากไฮ้ ปากก่ำกินมันหมก คันบ่กินหมกมันปากบ่ดำปานนี้
โอน้ออ้ายเอ้ย เจ้าผู้พั่วดอกซ้อนหอมอ่อนยามเดิก แมนใผน้อสิมาเด็ดไปซม ก่อนพระนางเด้อ้าย
คำผญาปริศนา
๏ อัศจรรย์ใจโอ้ ปลาคะแยงโพบ่มีเงี่ยง
ปลาซิวปักปวดดิ้น โลดเป็นผ่ำป่วยปี
๏ อัศจรรย์ใจแข้ หางยาวๆ บ่ได้ฮองนั่ง
บาดกระต่ายหางแป้ๆ บาดกระแตหางป้อม ๆ สังมาได้นั่งฮอง
๏ อัศจรรย์ใจโอ้ ข้าวสารอยู่ในโอยอคอตอดไก่
ไม้ไผ่ยอคอตอดซ้าง ปลาย่างอยู่ในหิ่งทะยานเต้นคุบแมว
๏ อัศจรรย์ใจม้อน กินแต่มอนสังมาฮู้จักเยี่ยว
บาดว่าไก่ผู้โจ้น กินน้ำเยี่ยวบ่เป็น
๏ กวางกินหมากขามป้อม ไปคาก้นขี้มั่ง
คันแมนมั่งบ่ขี้ สามมื้อกระต่ายตาย
๏ อัศจรรย์ใจโอ้ โอทองสังมาแตก
บาดว่ากะโป๋ะหมากพร้าว สังมามั่นกว่าโอ
๏ เก้าสิฆ่า สิบสิฆ่า ให้เอาแก่นกะยุงตี
อย่าได้เอาบาลี ต่อยตีตางค้อน
๏ ตาดีไปคล้องซ้าง สามปีมาเปล่า
ตาบอดไปคล้องซ้าง สามมื้อได้ขี่มา
๏ นกอี้เอี้ยง กินหมากโพไฮ
แซวๆ เสียง บ่มีโตฮ้อง
แซว ๆ ฮ้อง โตเดียวเหมิดหมู่
๏ เวียงจันทน์ฮ้าง เป็นโพนหมาจอก
บางกอกฮ้าง เป็นหม่องกระต่ายนอน
๏ ลิงซิงลิงขึ้นต้นไม้ บาดซิไบักโกกนาโถ
๏ กอยมันฮ้าง ฮามดินพลัดพราก
ข้าวกากลาจากเล้า ควายเฒ่าหง่วมเหงา
๏ นกหงส์ฮ่ำฮ้อง ลาคอนปละเปล่า
นกเจ่าลาพุ่มไม้ ลงน้ำล่องลอย
๏ กาเหว่าฮ้อง เทิงหัวยินโศก
โกนดกฮ้อง ไกลซู้จากเฮียม
๏ กลัวฟืนหนีจากหม้อ กวยกะทอลาข้าวปลูก
กกหูกลาจากไม้ก้ำพั้น พันมื้อบ่จวบกัน
๏ เป็ดเป็นผู้ไข่ ไก่เป็นผู้ฟัก
ขี้กะดักกะเดือนเป็นผู้เลี้ยง บุญซิได้แก่ใผ
๏ หอยกาบกี้ ฮู้ปากคือคน
ปลาซิวมีเขา ไล่ซนควายฮ่าย
๏ อัศจรรย์ใจไม้ ลำสะโหนผัดเกิดเป็นไม้แก่น
คึดยากขวานซิบ่าน คึดยากขวานซิเบี้ยว นีนื้อบั่นสะโหน
๏ อุปซนหัวขวัญเจ้า ราซานักปราชญ์
แม่น้ำใหญ่หัวต่อน้ำ เซน้อยบวกควาย
๏ สังพากันโตนลงห้วย หาฮังแตนต่อ
สังบ่ขึ้นโคกกว้าง หาซ้างค่าแพง
๏ อยากกินข้าว ให้ปลูกใส่พะลานหิน
อยากมีศีล ให้ฆ่าพ่อตีแม่
อยากให้คนแว่ ให้ฆ่าหมู่เดียวกัน
๏ หินแผ่นล้าน ก้อนใหญ่คือซิหนัก
บาดว่าเอาสะโหนติด ซั่งซาสังมาได้
๏ ผิว่าตามตาคิ้ว คือสะโหนซิหนักกว่า
คันแมนตาบ่คิ้ว ซิเอาเบื้องฝ่ายสะโหน
๏ อัศจรรย์ใจกุ้ง กุมกินปลาบึกใหญ่
ปลาซิวไล่สวบแข้ หนีไปซ้นหลืบหิน
๏ อัศจรรย์ใจแข้ หางยาวๆ บ่ได้ฮองนั่ง
บาดกระต่ายหางป้อมๆ สังมาได้นั่งฮอง
๏ อัศจรรย์หมาขบซ้าง สามแฮงล้มท่าว
บาดว่าซ้างลุกขึ้น หมาซิไห้ต่อสาม
๏ เฮือนมุงหญ้า ฝนตกมาสังว่าฮั้ว
บาดว่าลดหญ้าไว้ ฝนเท่งแลนกาย
๏ แผ่นดินไข้ ซิเอาหยังมาตุ้มห่ม
แผ่นดินออกหมากไม้ ยาแก้แมนหยัง
๏ อัศจรรย์ใจน้ำ วังใสสังมาขุ่น
อัศจรรย์ไม้แก่นหล่อน สังมาปิ้นป่งใบ
๏ อัศจรรย์วังเวิงกว้าง สังมากลายเป็นหาด
บาดว่าหาดแท้ๆ สังมาปิ้นต่าวเวิน
๏ บัวขี้แบ้ สังมาเกิดกลางหนอง
บัวทองไปเกิดก้ำ หัวสวนบ้านเก่า
บ่อนเลิ๊กมาเล่าตื้น พอยื้อย่องเถิง
๏ อัศจรรย์ใจกุ้ง หลังงอๆ เหยียดบ่ซือ
ธรรมชาติเป็นดังนั้น เพียรแก้กะบ่เถิง
คำผญาการดูลักษณะหญิง
ข้อ 1. หญิงใดทำกินพร้อมพอเกลือพอปลาแดกหญิงนั้นเป็นข้อยท่านฮ้อยชั้นควรให้ ไถ่เอาเจ้าเอย
ข้อ 2. หญิงใดเอเลท้องพุงหลวงอุ้มบาตร หญิงนั้นหลอนท่อฮูบฮ่างฮ้ายบุญเจ้าหาก สิมีชายใดได้อยู่ซ้อนนอนฮ่วมเฮืองสอง สมบัติมีพร่ำเพ็งเต็มเหย้า
ข้อ 3. หญิงใดคอกลมป้องหางตาแดงสักสะหน่อยหญิงนั้นสุขลื่นล้นคำไฮ้บ่มีท้าวเอย
ข้อ 4. นางใดยกย่างย้ายเสียงบาดตีนหนัก หญิงนั้นอย่าใด้เอามาเทียมถ่อยคนควร เว้น
ข้อ 5. หญิงใดหน้าผากต้อมผัวฮักแวนถนัด อันว่าการหญิงชายก็หากยังเฟือนฟ้าว
ข้อ 6. หญิงใดปากกล่าวต้านเสมอดั้งเสียงชายนั้นนา บาคานเอยอย่าเอามาซ้อน
ข้อ 7. หญิงใดเกษาล้วนดกดำเลิงแลบ มีทั้งผิวบ่เศร้างามแย้มอยู่เลิง ยามเมื่อยกย่างย้ายไปเคี่ยม มาเสมอ ตาแลดูแต่พอวาด้าม ชายใดได้อยู่ซ้อนเฮียงฮ่วมเป็นเมียก็ดี ยูถ่างทงความสุขนั่งปองเป็นเจ้า
ข้อ 8. หญิงใดย่างบาดกว้างตีนช่วงธรณีนั้นนา ตัณหาในสงสารบ่อาจมีไผเพี้ยง
ข้อ 9. หญิงใดขนตาเลี่ยมเหี่ยนปลายสักสะหน่อย หญิงนั้นฮู้ขี้คร้านเข็นฝ้ายมัก นอนแท้ดาย
ข้อ 10. หญิงใดผมพันส้อยยอยหูเป็นสีก หญิงนั้นเงินบ่ค้างพอเสี่ยวอยู่ถงแท้นา
ข้อ 11. หญิงใดเป็นปานก้ำกกขาดูหลาก ไผผู้กลอยกล่าวต้านโอมได้โชคมัน แท้แหล่ว
ข้อ 12. หญิงใดจินจิกเกล้าผมแดงทางหน้าผาก หญิงฮูบนั้นแฮงม้างศาสนา ท้าวเอย
ข้อ 13. หญิงใดโขโมหน้าคือชายสูงสวด หญิงนั้นใจโลดเลี้ยวมีชู้จากผัว แท้แหล่ว
ข้อ 14. หญิงใดปลายมือห่วนบาทาเท้าใหญ่ หญิงนั้นทุกข์บ่มั้วบาท้าวอย่าเอา แท้เนอ
ข้อ 15. หญิงใดทันตาแข้วขาวเจิงพ้นปาก หญิงนั้นทุกข์แต่น้อยเถิงเฒ่าอยู่เลิง แท้แหล้ว
ข้อ 16. หญิงใดฝ่าตีนกว้างกกขาทึมแข่งใหญ่ หญิงนั้นบ่เป็นมิ่งเหง่าสอนได้ก็บ่ฟัง แท้นา มันก็คิดต่อตั้ง เถิงโลกโลกา ตัณหาในสารบ่อาจเทียมมันได้
ข้อ 17. หญิงใดหลังตีนสูงขึ้นคือหลังดองเต่า หญิงนั้นใจซื่อแท้ประสงค์ตั้งต่อผัว ก็บ่ได้เล่นชู้เสียจากผัวตน ดีท่อมีใจฮักต่อผัวคีค้อย หญิงนั้นทำการสร้างอันใดก็หากฮุ่งเฮื่องแล้ว แม่นว่าจมฮอดพื้นนทีแล้วก็เล่าฟู แท้นา
ข้อ 18. หญิงใดทำครัวพร้อมหุงแกงหมกมอก ก็บ่เค็มบ่จาง พอกพ้นแวนซ้อยแซบนัว หญิงนั้นบุญมากล้นยศทะโยค นามขุนแท้ดาย แม่นว่าดำปานกาก็หากควรเอาซ้อน
ข้อ 19. หญิงใดขี้แมงวันติดเต้าง่ามนมซ่นอยู่ แม่นว่าเป็นข่อยท่านฮ้อยชั้นควรให้ไถ่มา ท้าวเอย
ข้อ 20. หญิงใดหางตากำขี้แมงวันจับอยู่หญิงนั้นทุกข์บ่มั่วเป็นข้อยเพิ่นเลิงแท้แหล้ว
ข้อ 21. หญิงใดบั้งแข่งน้อยคิ้วก่องกวมตา หัวนมเป็นปานดำก็หากมีบุญแท้ ไผผู้โอมเอาได้เป็นเมียโชคขนาด มันหากดูประเสริฐแท้ เมือหน้าหากสิเห็นท้าวเอย
ข้อ 22. หญิงใดไปมาก้มคุมมุมลงต่ำ หญิงนั้นแม่นว่าบุญมากล้นมันนั้นก็บ่ยืน แท้แหล้ว
ข้อ 23. หญิงใดตีนผมเขินห่วนแปนหูเผยอยู่ หญิงนั้นโฉมสิงามลื่นล้นมันนั้นก็บ่ดี ท้าวเอย
ข้อ 24. หญิงใดวาจาต้านเสียงแฮงพ้นเพิ่น หญิงนั้นทุกข์บ่มั้วคำไฮ่แล่นเถิงแท้แหล้ว
ข้อ 25. หญิงใดปากกล่าวต้านหัวก่อนบุญมีแม่นสิเป็นเมียไผก็บ่หลอนพอฮ้าย
ข้อ 26. หญิงใดตีนมือส่วยแดงงามใสผ่อง หญิงนั้นเป็นข้อยท่านฮ้อยชั้นก็ควรให้ไถ่ เอาท้าวเอย
ข้อ 27. หญิงใดผมถอยขึ้นเมือเทิงล้านแง่ หญิงนั้นต้องถ่อยแท้ควรเว้นหลีกไกล ท้าวเอย
ข้อ 28. หญิงใดหน้าผากกว้างดังใหญ่โขโม หญิงนั้นเป็นคนขวงอย่าเอามาซ้อน
ข้อ 29. หญิงใดนมยานเท้าลงเถิงท้องหย่อน หญิงนั้นเลี้ยงลูกเต้านมหมั่นแผ่ผาย ไผผู้โอมเอาไดเป็นเมียแสนประเสริฐ แม่นว่าฮูบฮ่างฮ้ายก็ควรให้ไถ่เอา ท้าวเอย
ข้อ 30. หญิงใดนมสี่เต้าเชื้อชาตินามหมา มันนั้นใจโลภาถ่อยคนจริงแท้ หญิงนั้นแม่นสิทำการ สร้างอันใดบ่ฮุ่งเฮืองแล้วแสนสิมีลูกเต้าสอนได้ก็บ่ฟังแท้แล้ว
ข้อ 31 หญิงใดแบแยหน้าคือทรงสิไห่ต่อ หญิงนั้นตั้งถ่อยฮ้ายคำส้มบ่เหือดคิงแท้ดาย ไผผู้โอมเอาได้เป็นเมียแสนยาก มันท่อเฮ็ดยึดยื้อคำฮู้บ่มี หญิงนั้นแม่นสิงามยิ่งย้อยปุนเปรียบสาวสวรรค์ก็ดีจงให้เอาใจหนีหลีกไกลกลอยเว้น
ข้อ 32 หญิงใดนูนีส่วยเสมอปลีกล้วยตีบ หญิงนั้นสุขลื่นล้นคำไฮ้บ่มีเจ้าเอย
ข้อ 33. หญิงใดขี้แมงวันจับสีสบเบื้องซ้ายสมบัติมากบุญมี ไผผู้เอามาเป็นเมียก็ย่อมยังคูณค้ำ มันนั้นใจซื่อแท้ตั้งต่อผัวขวัญ เทียระคาคงอยู่ยืนเถิงเฒ่า
ข้อ 34. หญิงใดแขวนกลมส่วยขาวงามผิวผ่อง ไผผู้ได้อยู่ซ้อนปานกั้งฮ่มแดงแท้นา
ข้อ 35. หญิงใดมือโป้ข้อแขนบางกกกิ่ว หญิงนั้นทุกข์เท่าเฒ่าถือกระเบื้องคั่วขอแท้แหล้ว
ข้อ 36 หญิงใดคอกลมป้องอกหนาแอวกิ่วหญิงนั้นเลี้ยงลูกเต้าเมือหน้ามิ่งมูลแท้ แหล้ว
ข้อ 37. หญิงใดเสียงใสแจ้งหัวแกมทุกเมื่อ หญิงนั้นสุขลื่นล้นคำไฮ้บ่มี ควรที่เอาแจ่มเจ้าเป็นมิ่งเมียขวัญ บุญนางมีแต่หลังหลายชั้น
ข้อ 38. หญิงใดเจระจาต้านคำหวานเสียงม่วน ตาเชือดซ้ายคอป้องฮูบงาม มีทั้งผมยาวได้วาปลายคืบหนึ่ง หญิงนั้นควรค่าล้านคำฮ้อยชอบธรรมแท้แหล้ว
ข้อ 39. หญิงใดตีนมือสั้นขาวเหลืองต่ำเกิ่ง หญิงนั้นฮู้ฮับต้อนทางก้ำแม่ผัว แท้แหล้ว
ข้อ 40. หญิงใดใบหูหิ้วดังหยุดสักสะหน่อย หญิงนั้นเป็นแม่ค้าก็ยังได้สืบทึนแท้ แหล้ว
ข้อ 41. หญิงใดผมดำเหลี่ยมหางยูงเสมอภาพกันนั้น ไผผู้ได้อยู้ซ้อนเป็นเจ้าเศรษฐีแท้แหล้ว
ข้อ 42. หญิงใดหมุดหลุดส่วยเมือหัวสะโพกโหญ่ หญิงนั้นทุกข์บ่มั้วคำไฮ้แล่นเถิง แท้แหล้ว
ข้อ 43. หญิงใดโขโมหน้าหักคือด้ามเกี่ยวหญิงนั้นทุกข์บ่มั้วถือกระเบื้องคว่าขอ แม่นสิทำการสร้างอันใดก็บ่ฮุ่งเฮืองแล้ว ไปค่าได้มื้อฮ้อยเสียซ้ำตึมพันแท้ดาย
ข้อ 44. หญิงใดผีสบซ้ำปานหมากมอนสุก ตัณหาในสงสารบ่อาจเทียมมันได้
ข้อ 45. หญิงใดคิดฉลาดฮู้ในแห่งคลองธรรม มีแต่จงใจคิดต่อศีลทานแท้ทั้งบ่คิดโลภเลี้ยวใจต่างพรางผัว การเฮือนมีค่อยทำเพียรสร้าง หญิงนั้นเพิ่นหากลือซาเท่าทั้งเมืองเทวโลก ทุกแหล่งหล้ายอย่องสู่ภาย หญิงนี้ควรเอากล่อมเกลี้ยงเป็นมิ่งเมียขวัญ บุญไผหลายก็จึงหวนเห็นพ้อ
ข้อ 46. หญิงใดสัพพะเหล่วเล่นตัวหล่ายลวง ชายมันก็เจนๆเสียงอะเห่ยหัวในห้องหญิงนั้นอย่าได้ โอมเอาถ้อนเสียเงินดายดอก หญิงผู้นั้นควรเว้นหลีกหนีท้าวเอย
ข้อ 47. หญิงใดฮู้ปากต้านถามแขกกลางเฮือน คลองบูฮานเล่าหวนเห็นแจ้ง ยังเล่ามีใจตั้งเถิงทานแวนประเสริฐศีลห้าเข้าในเนื้อจื่อจำ หญิงนั้นธรรมชาติเชื้อแก้วเกิดกลางเฮือนบุญไผหลายก็จึงหลงมาพ้อ
ข้อ 48. หญิงใดฮู้ปากต้านตั๋วะหล่ายกินของ การเฮือนมันบ่จงใจสร้าง มีแต่แปลงตัวต้านหาชายทุกเช้าค่ำคืนแล้ว คอยแต่ทัดดอกไม้มวยเกล้าสู่วัน ได้แต่ถือกระจอนต้างแยงคิงหลิงหล่ำ ทำเพศเฮ็ดเอื้อเคื้อเหลือล้นลื่นสาร หญิงนั้นเขากล่าวต้านจาว่าหญิงเก บาคานเอยอย่าเอามาซ้อน
ข้อ 49. หญิงใดเจระจาต้านตามคลองเฒ่าแก่ ให้ถืกแท้คำเฒ่าสั่งสอน ตั้งเหล่าบ่ขี้คร้านต่ำ หูกทอไหม ของแพงมีอเนกนองในห้อง หญิงนั้นเขาก็ลือชาแท้ทั้งแดนดาโลก ไผก็ยังอยากได้เป็นแก้วมิ่งเมีย นางนั้นควรที่เอามากล่อมกลิ้งเป็นมิ่งเมียขวัญ นางจักพาคูณเฮือนอยู่สบายหายฮ้อน
ข้อ 50. หญิงใดฮู้ขี้คร้านต่ำหูกทอไหม ได้แต่ยืมผืนแพรเพิ่นมาทงเอ้ ซ้ำยังคุยสำหาวเว้าจา สงพ้นเพิ่น ฝั่นเล่วเฮ็ดยืดยื่อ ยืนเอ้อวดโต อันนั้นเพิ่นว่าหญิงเลิงชู้ ทางเฮือนดีมันบ่อ่าวเถิงแล้ว มีแต่คิดค้อยๆคะนิงแท้บ่อนเดียว
ข้อ 51. หญิงใดทำกระบวนไต้จุดตะเกียงลงล่าง มันก็ติว่าเจ็บท้องแท้เทียวขี้ค่ำคืน หญิงนั้นเขาว่า คนเคียวก้นทำกลตั๋วะหล่าย ตั้งที่แท้เทียวให้เพิ่นเซิงแท้ แหล้ว
ข้อ 52.หญิงลงและขึ้นเมือเฮือนเจ้าบ่าว ทำเพศเฮ็ดมั่งคั่งไว้วาดเกินกระบวน มันเล่ามายาต้านหาชายเว้าโยคปาดโทเด้ หาเที่ยวยืมพุ้นพี่มาเอ้อวดโตแต่งเพศเฮ็ดเหลื่องหล่างตาเสียดหาชายมือคัวบายลูบคลำมวยเกล้า แล้วเล่าปากกล่าวต้านเว้าว่าโตดี การเฮือนมีบ่จาจงเอื้อ หญิงนั้นอย่าได้เอาเป็นแก้วเมียขวัญสิทุกข์ยาก ท้าวเอย มันหากคิดโลภเลี้ยวลางล้างบ่ดี แท้ดาย ฝูงหญิงนี้ถ่อยฮ้ายเจ้าอย่าโอมเอา นั้นนอ เขาเป็นคนโลภาบาปหนาแสนชั้น |