สองขาปั่น วันเดินทาง กลางแสงจ้า

เพียงอ่อนล้า กำลัง ยังทนไหว

เขาสูงชัน กั้นแผ่นฟ้า จะฝ่าไป

ค่ำที่ไหน นอนนั่น ไม่หวั่นเลย

ปั่นต่อไป ในวัน ฝันสว่าง

บนเส้นทาง เท้าเดิน จำเริญเฉลย

ผ่านทิวเขา เข้าชม ลมลำเผย

คนคุ้นเคย ค้นคิด สนิทใจ

สร้างพลัง ระหว่าง ทางที่ผ่าน

จิตประสาน วันคืน รื่นไสว

ลมพัดโบก โยกพลิ้ว ปลิวสะใบ

หย่อนโยงใย เย็บรับ ประดับดิน

หวีดหวิววิ่ง แหวกลม ผสมอากาศ

ประสิทธ์ศาสตร์ เสริมส่ง ดำรงถวิล

ประสานเสียง สำเนียง เบี่ยงอาจิณ

ประศาสตร์ศิลป์ สร้างสรรค์ สวรรค์บรรเลง

เสียงฟันเฟือง คล้องโซ่ ซัดเซสาด

มิข้องขาด ขันตึง ดึงดัน เส็ง

ผสมสาน ผ่านหลบ หลุมโครงเครง

เป็นบทเพลง ไพรเราะ จะรอฟัง

ยามขึ้นเนิน เขินขึง ตึงโซ่แต่ง

เท้ากดแรง เร่งรับ กับคันหลัง

ใช้แรงกด เกี่ยวโซ่ โล้เร็วจัง

เสียกำลัง ยังขึ้น ฝืนอีกที

ยามลงเนิน เจิ่นลง โค้งข้างหน้า

อีกภูผา ริมทาง ต่างวิถี

แหล่งอาศัย ไหล่เขา เย้าเรือนมี

สะดวกดี ที่ทาง ว่างทำกิน

ทั้งขึ้นลง ตรงเนิน เชิญเที่ยวท่อง

ปั่นเมียงมอง ลองแล ลัดโขดหิน

แดนอุดม สมบูรณ์ คุณแผ่นดิน

ทั่วธานิน นอนแนบ แอบอุ่นอิง

กล้าต้น อินระดา